Nintendo-Gameboy Advance SP , Micro (ค.ศ.2003 – 2005)
ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ยุค 90’s เป็นต้นมา แม้ว่ายอดขายของเครื่องเล่นเกมกดอย่าง Gameboy จะสร้างรายได้ให้กับค่าย Nintendo ได้อย่างถล่มทลาย แต่ Gameboy ก็ไม่วายโดนวิจารณ์จากกลุ่มผู้เล่นเกมในยุคนั้นว่ามีประสิทธิภาพสู้เครื่องเล่นเกมกดรุ่นใหม่ๆ ของค่ายคู่แข่งไม่ได้ จากคำวิจารณ์เหล่านี้ทำให้ค่ายผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมยักษ์ใหญ่ของวงการอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงได้มีการอัพเกรดประสิทธิภาพของเครื่องเล่นเกมกดรุ่นใหม่ๆอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ความนิยมของ Gameboy หดหายไปจากท้องตลาด ตั้งแต่ยุค 90’s ต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนถึงยุค 2000 เราจึงได้เห็นการผลิต Gameboy รุ่นใหม่ๆออกมาวางขายอย่างต่อเนื่อง
สืบเนื่องมาจากการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมกด Game boy Advance เมื่อปี ค.ศ.2001 แม้ว่าเครื่องเล่นเกมรุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องเล่นเกมกด Game boy รุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวไปในยุค 90’s แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็เริ่มพบปัญหาหลายๆอย่างที่แก้ไม่ตก ทำให้หลายคนเริ่มหันไปเล็งเครื่องเล่นเกมกดจากค่ายคู่แข่งแทน ในปี ค.ศ.2003 ทางค่าย Nintendo จึงได้แก้เกม ด้วยการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมกดรุ่นใหม่ ในชื่อ Nintendo-Gameboy Advance SP ซึ่งเป็นการอัพเกรดและแก้ไขข้อบกพร่องหลายอย่างจากเครื่องเล่นเกมกดในรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่เป็นแบบฝาพับ ทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น หน้าจอมีไฟ Backlight ที่สามารถเปิดปิดได้ เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพทนทานยิ่งขึ้น สามารถใช้เล่นเกมได้ยาวนานมากขึ้น
ต่อมาในปี ค.ศ.2005 ทางค่าย Nintendo ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกมกดรุ่นใหม่อีกครั้ง ในชื่อ Gameboy Micro นับว่าเป็นเครื่องเล่นเกมกดภายในตระกูล Gameboy Advance ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดที่สุด แต่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กลงและพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ในส่วนของหน้าจอก็มีขนาดเล็กลงเช่นกัน อีกทั้งยังไม่รองรับตลับเกมจากเครื่องเกมในรุ่นก่อนๆแล้วด้วย ซึ่งมันก็ทำยอดขายได้ไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่นัก เหตุผลหลักๆน่าจะเป็นเพราะว่าทางค่าย Nintendo ได้ตั้งราคาวางจำหน่าย ไว้เท่ากับ Game boy Advance SP ที่มีขนาดของหน้าจอใหญ่กว่า จึงทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกที่จะซื้อเครื่องเล่นเกมกดรุ่นนี้แทน
นับตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องเล่นเกมกด Gameboy รุ่นแรก เมื่อปี ค.ศ.1989 สืบเนื่องมาจนถึง ปี ค.ศ.2005 ทางค่าย Nintendo ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีเกี่ยวกับเกมมาอย่างต่อเนื่อง มีการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมกดรุ่นใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อให้ Gameboy ได้รับความนิยมต่อไปเรื่อยๆ แต่ความนิยมของเครื่องเล่นเกมกดก็เริ่มหมดไป เมื่อถูกแทนที่ด้วยเครื่องเล่นเกมคอลโซลยอดฮิตอย่าง Play Station ซึ่งผู้เล่นในยุคต่อมาเริ่มเปลี่ยนจากการเล่นเครื่องเล่นเกมกด มาเล่นเกมด้วยเครื่องเล่นเกมคอลโซลแทน เพราะเครื่องเล่นเกมคอลโซลสามารถเล่นเกมได้อย่างมีอรรถรสมากกว่า