จากเรื่องราวในการ์ตูน “รถทามิย่า” สู่สนามการแข่งขันของจริง
จากการประสบความสำเร็จของหนังสือการ์ตูนเรื่องเจ้าหนูทามิย่า Dash! Yonkuro และเรื่องนักซิ่งสายฟ้า Let’s & Go! ซึ่งทั้งสองเรื่องล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งขันรถ Mini 4WD จากความสำเร็จของการ์ตูนทั้งสองเรื่อง เมื่อทางบริษัทได้มีการนำรถแบบเดียวกับในหนังสือการ์ตูนออกมาวางจำหน่าย ก็ได้รับการตอบรับจากผู้เล่นในยุคนั้นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรถของค่ายทามิย่าเอง หรือรถของแบรนด์อื่นๆก็ตาม ก็สามารถทำยอดขายได้ดีแทบทั้งสิ้น
ในการ์ตูนทั้งสองเรื่องเจ้าหนูทามิย่า Dash! Yonkuro และเรื่องนักซิ่งสายฟ้า Let’s & Go! นั้น หนึ่งในเส้นเรื่องหลักที่สำคัญ คือ การแข่งขันรถ Mini 4WD จากอิทธิพลของการ์ตูนทั้งสองเรื่อง ส่งผลให้ในขณะนั้นเริ่มมีการจัดแข่งขันรถ Mini 4WD ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทั้งงานแข่งขันที่จัดโดยบริษัททามิย่า หรืองานที่ทางกลุ่มผู้เล่นได้จัดขึ้นกันเอง เพื่อให้ทางเหล่าผู้เล่นได้นำรถทามิย่าของตัวเองมาประชันกันบนสนามการแข่งขัน หากรถของใครได้แชมป์จากการแข่งขัน ทางผู้จัดงานก็อาจจะมีเงินรางวัลหรือถ้วยรางวัลมอบให้
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานับสิบๆปี จนผู้เล่นส่วนใหญ่หันไปเล่นเกม PlayStation หรือ PC กันบ้างแล้ว แต่ความนิยมของรถทามิย่าก็ยังไม่ได้หายไปจากสังคมซะทีเดียว เพราะในปัจจุบันมีกลุ่มผู้เล่นจำนวนหนึ่ง ที่ยังนิยมรถ Mini 4WD มาจนถึงทุกวันนี้ แถมกลุ่มผู้เล่นก็ยังครอบคลุมทุกช่วงทุกวัยอีกด้วย ซึ่งทุกวันนี้เราก็ยังได้เห็นการจัดงานแข่งขันรถ Mini 4WD กันอยู่บ้าง เพียงแต่
ไม่มากเหมือนยุครุ่งเรืองแค่นั้นเอง
หลายคนมีความแปลกใจว่าทำไมรถ Mini 4WD ยังได้รับความนิยมจากผู้เล่นบางส่วนมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในสาเหตุนั้นน่าจะเป็นเพราะความนิยมของการ์ตูนเรื่อง Dash! Yonkuro หรือเจ้าหนูทามิย่า ได้มีการนำมารีบูทใหม่เมื่อปี ค.ศ.2015 ที่ผ่านมา ใช้ชื่อเรื่องว่า Hyper Dash! Yonkuro โดยเป็นลายเส้นของนักเขียนการ์ตูนผู้โด่งดังอย่าง “ฮิโรยูกิ ทาเคอิ” การรีบูทในครั้งนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งลายเส้นและเนื้อเรื่องใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
เชื่อได้ว่าเด็กผู้ชายที่เกิดในช่วงยุค 90’s มาจนถึงยุค 2000’s คงจะรู้จักรถทามิย่า หรือรถแดช เป็นอย่างดี มันคือของเล่นชิ้นโปรดของใครหลายๆคน จึงไม่แปลกที่อยากจะรำลึกถึงมัน บางคนถึงขั้นไล่ซื้อรถทามิย่าแทบทุกรุ่นเพื่อมาเก็บไว้เป็นของสะสม เพราะไม่แน่ใจว่าในอนาคตเราจะได้เห็นของเล่นประเภทนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน หลายคนจึงเลือกที่จะไปซื้อมาเก็บไว้เป็นของสะสมแทน